วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

640714_พุทธศาสนาตามภูมิ - ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 1

 เรื่อง พุทธศาสนาตามภูมิ - ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 1
วันพุธที่ 14 กรกฎาคม  2564

ณ บวรราชธานีอโศก











ชมวิดีทัศน์ได้ที่นี่
ฟังเทปบันทึกเสียงได้ที่นี่


 

สมณะฟ้าไท…วันนี้วันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2564 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 8 (2) ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก สถานการณ์โควิดในเมืองไทยตอนนี้เป็นเชื้อสายพันธุ์ที่ติดต่อกันได้ง่ายมากกว่าเก่า พวกเราหากรู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยง ก็ควรทำตัวเองให้ปลอดภัยให้มากที่สุด กลับมาก็จัดการฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย หากว่าเรามีความเสี่ยงแล้วเราไม่ป้องกันตัวเอง ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อโควิดภายในหมู่บ้านได้ เป็นการก่อวิบากบาปขึ้น

พ่อครูว่า...SMS วันที่ 10-11 ก.ค. 2564

 

_ส.คิดถูก : มีคนเห็นดอกบัวเป็นกงจักรคือเห็นสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้าว่าเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า เห็นอรหันต์เก๊เป็นอรหันต์จริง

เห็นดอกบัวเป็นกงจักรคือเห็นธรรมะแท้ๆ เป็นธรรมะเทียม

เห็นคนดีเป็นคนชั่ว เห็นอรหันต์แท้ๆเป็นอรหันต์เทียม

ผมเข้าใจเช่นนี้ อยากให้พ่อครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมถ้ามีโอกาสครับ

พ่อครูว่า...จะอธิบายว่า ดอกบัวก็เป็นเพียงสิ่งสวยๆล่อคนก็ได้แต่เห็น กงจักรเป็นธรรมจักรก็ได้ อธิบายว่ากงจักรเป็นธรรมะแต่ดอกบัวไม่ใช่ธรรมะก็ได้ แล้วแต่เราจะขยายความนี่แหละเป็นภาวะ 2 สิ่งที่เป็นสิริมหามายา ผู้ใดจะสำคัญมั่นหมายเอาอะไรเป็นอะไรโดยใช้พยัญชนะอธิบายแล้วสื่อสภาวธรรมออกมาให้คนเข้าใจ ขึ้นอยู่ที่การกำหนดหมายสัญญา

สัญญา เป็นตัวสำคัญที่สุด อยู่ที่การกำหนดหมาย หากเอาพยัญชนะอธิบายสภาวะสัจจะ หรือเอาสภาวะสัจจะอธิบายเป็นบัญญัติ ก็แล้วแต่จะจัดอะไรมาอธิบายเป็นภาษาอย่างไร สื่ออันไหนก็แล้วแต่ คนฟังที่มีปฏิภาณปัญญาดีๆ จะมีภาษาสื่อสภาวะอย่างไร สภาวะที่มีจริงแล้วที่มีหนึ่งเดียวเป็นสัจจะที่ไม่เป็นสองของผู้ใดที่มี แนบแน่นดีเยี่ยมมากเท่าใดก็สามารถรู้เท่าทันมี มุทุภูตธาตุแววไวเท่าทันตลอดเวลา

 

กระสุน 200 นัดได้พิสูจน์กฎแห่งกรรม

_ตุ๊ก อัศวิน : เชื่อมั่นใน'กฎแห่งกรรม' อันเป็นกฎแห่งมหาจักรวาล ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและประกาศแก่โลกมานานกว่า>๒,๖๐๐ ปี ในยุคนี้ พ่อครูกรุณาอรรถาธิบายในมิติของพลังงาน พุทธศาสตร์จึงเป็นวิทยาศาสตร์อย่างยิ่งเจ้าค่ะ ดังที่ท่านพระอัสสชิเถระได้กล่าวไว้..'ธรรมทั้งปวงไหลมาแต่เหตุ'..เรื่องของ'กรรม' เป็นเรื่องอจิณไตยโดยแท้..เกินกว่าปุถุชนจะเข้าใจและคาดเดาได้ ..คงนำมาอธิบายกับกรณีกระสุน ๒๐๐ นัด..ก็เป็นเรื่องของกรรม ดุจดังเรื่อง 'พระอนุรทธ กับ ขนมไม่มี'...ใช่ไหมเจ้าคะ Amazing Law of Karma !!!

พ่อครูว่า... กรณีกระสุน 200 นัด (ญาติธรรมว่า.. กรณีคุณสนธิ) อาตมาเคยเอามาอธิบาย คนยิงเข้าไปที่รถคุณสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วคุณสนธิรอดได้ทุกกระสุนที่ศีรษะนิดเดียว คุณสนธิก็คิดว่านี่แหละคือความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ คุ้มครองเอาไว้ก็เลยเชื่อหนักในเรื่องนั้น ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นกฎของกรรม

เมื่อเห็นการเกิดอาตมาก็ยังไปเยี่ยม ก็ยังได้บอกคุณสนธิ ซึ่งจะอัดเสียงเอาไว้หรือเปล่าไม่ทราบ อาตมาบอกและพูดตรงๆว่า นี่นะคุณหลุดพ้นปลอดภัยได้เพราะคุณความดีของคุณคุ้มครอง อาตมาใช้คำว่าคุณความดีของคุณคุ้มครอง คุณความดีของคุณที่มีคุ้มครองคุณไว้ แปลว่าบารมีของตัวเองเท่าที่มีมาในเหตุการณ์นี้ เรื่องนี้เฉพาะของคุณสนธิ ใครจะไปลอกเลียนไปเอาอย่างไม่ได้

ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอำนาจของใคร กรรมเป็นของตนวิบากเป็นของของตน ทุกอย่างกรรมพาเป็นไปทั้งนั้น ถ้าเข้าใจเรื่องของกรรมแล้วสูงสุดไม่ใช่ใครมาบันดาลไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล อย่างพวกคุณมาอาตมาไม่ได้ไปบันดาลแต่เพราะพวกคุณสั่งสมบารมีของตัวเองเท่าที่ได้เท่าที่มีเท่าที่เป็น

เพราะฉะนั้นคนที่หลงความอวดเก่งของตัวเองว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของเราคุ้มครอง ก็เป็นบุญคุณ ซึ่งคนที่มีอัตตามีอะไรที่จะหาบริวาร หรือจะหลงตัวเองว่าเก่งว่ายอดก็จะเป็นอย่างนั้น ก็ขอขยายความให้ฟังบ้าง

 

_เอก คตาจิต : กราบนมัสการพ่อครูเป็นอย่างสูงครับ วิธีจะล้างโลกธรรม ความอายได้ต้องทำเช่นไร ความอายความเก้อเขินความตื่นเต้นจึงจะออกไปจากใจได้ครับ อยากพูดเก่งได้เหมือนพ่อครูมากครับ กราบขอบพระคุณครับ

พ่อครูว่า...ทำไมจะต้องเก่งเหมือนอาตมา ซึ่งอาตมาพูดไม่เก่งหรอกนะอาตมาพูดผิดพลาดบางครั้ง บางทีก็มีสื่อพยัญชนะวิปลาสไปบ้าง ไม่จำเป็นต้องเก่งอย่างอาตมา คุณให้ความหมายอย่างตื้นมาว่าอาตมาเก่งก็เอา ก็จับเอาสิ่งที่เป็นสาระเป็นเนื้อแท้อะไรที่ดีๆไป ไม่ใช่พูดเยอะพูดมากๆ โดยเฉพาะเอาธรรมะลึกๆมาพูดแล้วเก่งไม่ใช่อย่างนั้น ศึกษาให้ดีๆ

 

_วรางค์ภร เดชวัฒน์ : ทางเสื่อมแห่งพุทธฯ... คือ คนในยุคกาลนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นสัตบุรุษค่ะ เหมือนกามนิตที่ได้คุยกับพพจ.ทั้งคืน ได้รับธรรมโลกุตระแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่านั้นคือ สัทธรรมพาให้พ้นทุกข์ค่ะ 🙏🙏🙏

 

_สุทน มณีพงษ์ : กราบนมัสการพ่อท่าน และชาวชุมชนอโศก ผมมีความคิดว่านะ ตอนนี้คนทั่วโลกระดับล่างและกลาง กำลังถูกนายทุน ยาและรัฐบาลบางประเทศร่วมมือกันปั่นสร้างความกลัวให้ชาวโลกแล้วขายยา

พ่อครูว่า...คนเราทุกวันนี้ความโลภความขี้โกงความเอาแต่ได้ สารพัดจะใช้เล่ห์เอาได้ทั้งนั้นในโลกไม่จบง่ายๆมีตลอดโลกแตก ในยุคพระพุทธเจ้าก็มี ในยุคไม่มีพระพุทธเจ้าก็ยังมี มากน้อยก็แล้วแต่จัดจ้านหรือน้อยก็แล้วแต่ เราศึกษาเรื่องเหล่านี้แหละ เราจะเข้าใจและพ้นจากกระแสชั่วต่ำๆทรามๆพวกนี้ได้ ซึ่งเป็นเรื่อง อจินไตย ที่สำคัญมาก ศึกษาให้ดีๆ

 

SMS วันที่ 12-13 ก.ค. 2564

 

_ธาตุไท นายน้อย : กราบขอปฏิบัติบูชา ด้วย อ.อาหาร ๑๔ วัน อ.อื่นๆเป็นปกติครับ มีญาติธรรม..ที่เป็นมะเร็งแก่ๆแล้วรักษาหาย อายุเกิน๖๓ สามารถขับรถกว่า800กม.รวดเดียว และสามารถทำงานต่อได้อีก..จึงขอโอกาสปฏิบัติบูชาพ่อฯ ครับ

 

_สมจิตร มิละถาโก : อยากบวชที่ราชธานีอโศกจะทำยังไงบอกด้วยครับ

พ่อครูว่า...เข้ามาค่อยๆศึกษาไป จะค่อยๆรู้ว่าผู้ที่จะได้บวชเขาทำอย่างไรบ้าง มาศึกษาเป็นอาคันตุกะก่อน แล้วก็จะถึงขั้นเป็น อารามิก แล้วไปเป็นปะ(ปฏิบัติ) แล้วเป็นนาค เป็นเณรแล้วถึงจะได้เป็นสมณะ หลายขั้นตอน พูดแล้วอย่าเพิ่งท้อใจ หลายขั้นตอนให้มาเถอะ

ส่วน สิกขมาตุ กว่าจะได้ขึ้นเป็น สิกขมาตุ คนล่าสุดนี้ ปฏิบัติอยู่ 38 ปีจึงได้เป็น สิกขมาตุ แม้ไม่ได้บวชก็ได้รับประโยชน์ ได้ซึมซับ osmosis เข้าไปมีคุณธรรมในตัว แม้รูปแบบไม่เป็นสิกขมาตุก็เป็นอรหันต์ได้ เป็นฆราวาสก็เป็นอรหันต์ได้อยู่ในนี้ เสียชีวิตไปก็หลายคนแล้วที่เป็นฆราวาส เป็นอรหันต์ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

 

_กินมังเจ บริสุทธิ์ : ยาสู้โควิดดูหมอเขียวซิ บอกวิธีไว้เยอะ และมีตัวอย่างคนที่เป็นแล้วหายด้วยครับ ที่ให้เข้าไปดูหมอเขียว เพราะเคยได้ยินว่าท่านเป็นโพธิสัตว์ครับ

พ่อครูว่า...พยายามเป็นโพธิสัตว์ไปเรื่อยๆอยู่ พยายามพัฒนาดู จะเอาตัวนี้เป็นเครื่องตัดสินก็ยังไม่ใช่ทีเดียว ต้องพยายามเข้าใจองค์ประกอบของสมมติสัจจะข้างนอกก็คืออย่างหนึ่ง ส่วนที่เป็นปรมัตถ์คือจิตวิญญาณ นั่นแหละมาเรียนรู้ดีๆ สำคัญ ธรรมะต้องอย่างนั้น

 

ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 1

เข้าสู่เนื้อของสาระสัจจะธรรมะกันทีเดียว

อาตมาก็ขอย้อน อย่ารำคาญอย่านึกว่าไม่ได้ประโยชน์ เริ่มต้น อัมพัฏฐสูตร

3. อัมพัฏฐสูตร ล.9  ข้อ [141] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ประมาณ 500 รูป

พ่อครูว่า...แคว้นโกศลเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย คำว่า 500 รูป เป็นการประมาณ 500 รูปก็ไม่ใช่น้อย พวกสามนิ้วที่ประท้วงอยู่ตอนนี้ก็ใช้คนประมาณนี้ แต่นี่ไม่ได้ไปประท้วงแต่เป็นหมู่คนที่เจริญ ต่างกับหมู่คนทำปั่นป่วนพวกม็อบ บางทีท่านก็ใช้คำว่า 500 เป็นการประมาณ 500 หรือ 1500 หรือ 84,000 ซึ่ง 84,000 ถือว่าเป็นตัวแรกที่นับไม่ถ้วน Infinity เลย

บรรลุถึงพราหมณคาม แห่งชาวโกศล ชื่ออิจฉานังคลคาม. ได้ยินว่า สมัยนั้นพระองค์ประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคลวัน เขตอิจฉานังคลคาม.

พ่อครูว่า...ลงท้ายด้วยวัน คือ ป่า, ส่วนลงท้ายด้วย คาม คือ เขตบ้านเมือง

 

[142] ก็สมัยนั้น พราหมณ์โปกขรสาติอยู่ครองนครอุกกัฏฐะ

พ่อครูว่า...สมัยนั้นพราหมณ์เป็นเจ้าครองนครยิ่งกว่าผู้ว่าฯ อาจารย์ของ อัมพัฏฐะ เป็นเจ้าครองนคร ฟังดีๆ นี่ยิ่งกว่าหนังฮีโร่ ซึ่งอาตมาแต่ไหนแต่ไรอ่านหนังสือจีนไม่รู้เรื่อง ถ้าจะตามไปก็คงรู้เรื่องได้แต่ว่าไม่ไปติดตามเพราะว่ามันเป็นเรื่องโลกจินตา ปรุงแต่งกันซับซ้อนยิ่งกว่ากระเทย หรืออย่างหนัง Harry Potter มันก็ไปอย่างนั้น ส่วนผู้ที่จะแต่งเรื่อง Lord of the Rings. Star Wars ก็เป็นความซับซ้อนปรุงแต่งเป็นโลกจินตามาก ก็สับสนให้คนอื่นเขาคิดเหมือนกับฮีโร่ ใช้รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสบรรยาย ฉากนี้ใช้โทนสีแดงมีนัยยะสำคัญอย่างนี้ โทนสีฟ้าก็ต่างกับโทนสีขาว ซับซ้อนมีตัวละครเรื่องราวต่างๆ ยักคิ้วข้างนี้หมายถึงอย่างนี้ ยักคิ้วข้างนั้นหมายถึงอย่างนั้น มันโอ้โหไม่ไหว อาตมาตามด้วยไม่ไหวเมื่อย ก็เลยพอเข้าใจเขา เราไม่ค่อยเก่งทางนี้รู้ไม่ทันทางนี้ก็ไม่เป็นไร อาตมาก็เลยไม่มีปัญหา เราก็ต้องยอมรับว่าเราปรุงตามเขาไม่เก่ง ก็เอาตามที่เราถนัดเท่านี้ของเราก็พยายามเสนอให้ดีๆ ให้คนอื่นเขาได้รับรู้ธรรมะที่มันซับซ้อนเหมือนกัน และเป็นนามธรรมที่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นนามธรรมแบบ อรูปหรือโลกจินตา

แต่เป็นเรื่องปรมัตถธรรม เป็นเรื่องจิตวิญญาณแท้ๆ เป็นเรื่องโลกุตระ ซึ่งมีประโยชน์มหาศาลให้แก่มนุษยชาติมากกว่า อันนั้นมันก็เป็นประโยชน์โลกียะ ไม่ใช่ประโยชน์โลกุตระ

 

ซึ่งคับคั่งด้วยประชาชนและหมู่สัตว์ อุดมด้วยหญ้า ด้วยไม้ ด้วยน้ำ สมบูรณ์ด้วยธัญญาหาร  ซึ่งเป็นราชสมบัติอันพระเจ้าปเสนทิโกศล พระราชทานปูนบำเหน็จให้เป็นส่วนพรหมไทย.

พราหมณ์โปกขรสาติได้สดับข่าวว่า พระสมณโคดมศากยบุตรทรงผนวชจากศากยสกุลแล้ว เสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ  500 รูป ถึงอิจฉานังคลคามโดยลำดับ ประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคลวัน เขตอิจฉานังคลคาม ก็เกียรติศัพท์อันงามของท่านพระโคดมพระองค์นั้นแล ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า

พ่อครูว่า... กิตติศัพท์ของพระพุทธเจ้าจะเป็นกิตติศัพท์ที่ถ้วนรอบอันงาม แต่กิตติศัพท์ของโพธิรักษ์ในยุคนี้ไม่ใช่ขจรด้วยอันงาม แต่เป็นการขจรด้วยแง่ลบของโพธิรักษ์ แง่คูณ แต่ของโพธิรักษ์แง่ลบ แง่หาร

อาตมาไม่ได้ยกตนเทียบพระพุทธเจ้าแต่เดินทางไปทิศทางเดียวกันและบารมีต่างกัน

แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้วทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม

พระตถาคตพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก

พ่อครูว่า...ชัดเจนนะอาตมาเทศน์ตอนนี้ฝนกำลังตก ให้หนักขนาดนี้จึงเป็นโพธิรักษ์ ไม่หนักไม่ใช่โพธิรักษ์ อันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเหตุปัจจัยวัตถุและนามธรรมชี้บ่งว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง เราปลอดภัย เราลุล่วงหรือเรายังติดขัด หรือเรายังโดนต้าน มันบอกได้ เรื่องกรรมวิบากอจินไตยเป็นเรื่องสุดยอด

เทวโลกคือโลกคนดี มารโลกคือโลกคนชั่ว พรหมโลกคือโลกของผู้สะอาด

ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตามพระองค์ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลาย เห็นปานนั้น ย่อมเป็นการดีแล.

พ่อครูว่า...แน่นอนได้เห็นพระอรหันต์จริงๆก็เป็นการดี ภาษาอาจฟังง่ายๆ แต่การได้เห็นได้พยมันลึกซึ้งที่คนจะมีบารมีได้พบได้เห็น โดยเฉพาะได้พบได้เห็นโลกุตรธรรมหรือผู้มีโลกุตรธรรม ไม่มีบารมีไม่ทันได้เห็น คนตะวันตกคนตะวันออกกลาง แม้แต่แอฟริกาก็เยอะ และอีกนานกว่าจะได้มาเห็นจะได้ยินว่าในโลกนี้มีโลกุตรธรรม มีศาสนาพุทธ ด้วยหรือ

ดีไม่ดีแม้แต่คำว่าศาสนาพุทธ ก็แค่ได้ยินคำว่าพุทธ แต่เขาจะไม่รู้ว่าในพุทธมีธรรมะโลกุตรธรรมแตกต่างจากธรรมะที่คุณเองคุณอยู่มาไม่รู้ตั้งกี่ชาติแล้วด้วย เขาจะยังไม่รู้เรื่องเลย อย่างนี้เป็นต้น

 

เรื่องอัมพัฏฐมาณพ

 [143] สมัยนั้นแล อัมพัฏฐมาณพ ศิษย์ของพราหมณ์โปกขรสาติ เป็นผู้เล่าเรียนทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุ 1- คัมภีร์เกตุภะ 2- พร้อมทั้งประเภทอักษร มีคัมภีร์อิติหาสเป็นที่ 5 3- เป็นผู้เข้าใจตัวบท เป็นผู้เข้าใจไวยากรณ์ ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะ 4- และมหาปุริสลักษณะ อันอาจารย์ยกย่องและรับรองในลัทธิปาพจน์ คือ ไตรวิทยา อันเป็นของอาจารย์ของตนว่า ฉันรู้สิ่งใด เธอรู้สิ่งนั้น เธอรู้สิ่งใด ฉันรู้สิ่งนั้น.

@1. เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยชื่อของสิ่งต่างๆ มีต้นไม้เป็นต้น

@2. เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยกิริยา เป็นประโยชน์แก่กวี

@3. เป็นคัมภีร์ที่กล่าวถึงพงศาวดารมีภารตยุทธเป็นต้น ซึ่งประพันธ์ไว้แต่บุราณกาลนับเป็นคัมภีร์ที่ 5 คือนับ

@คัมภีร์อิรุพเพทเป็นที่ 1 คัมภีร์ยชุพเพทเป็นที่ 2 คัมภีร์สามเพทเป็นที่ 3 คัมภีร์อาถรรพณเพทเป็นที่ 4

@คัมภีร์อิติหาสนี้เป็นที่ 5

@4. เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยเรื่องไม่น่าเชื่อต่างๆ

พ่อครูว่า...ถ้าจะเทียบในยุคนี้แล้วอัมพัฏฐมาณพเก่งกว่าอาตมาเยอะ

 ครั้งนั้นแล พราหมณ์โปกขรสาติ เรียกอัมพัฏฐมาณพมาเล่าว่า พ่ออัมพัฏฐะ พระสมณ-*โคดมศากยบุตร พระองค์นี้ทรงผนวชจากศากยสกุล

พ่อครูว่า...แสดงว่าก็ยังถือว่า พระพุทธเจ้า มาจากเชื้อสายของกษัตริย์

 

นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ

สมณะฟ้าไท...เรื่องนี้มีรายละเอียด เรื่องตระกูล เรื่องศักดินา

พ่อครูว่า...

 ครั้งนั้นแล พราหมณ์โปกขรสาติ เรียกอัมพัฏฐมาณพมาเล่าว่า พ่ออัมพัฏฐะ พระสมณโคดมศากยบุตร พระองค์นี้ทรงผนวชจากศากยสกุล แล้วเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ 500 รูป ถึงอิจฉานังคลคาม โดยลำดับ ประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคลวันใกล้อิจฉานังคลคาม ก็เกียรติศัพท์อันงามของท่านพระโคดมพระองค์นั้นแล ขจรไปอย่างนี้ว่า

แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว(สุคโต) ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรมพระตถาคตพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง แล้วทรงสอนหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม พระองค์ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลาย เห็นปานนั้น ย่อมเป็นการดีแล.

 พ่ออัมพัฏฐะ พ่อจงเข้าไปเฝ้าพระสมณโคดมถึงที่ประทับ แล้วจงรู้ว่าเกียรติศัพท์ของท่านพระโคดมพระองค์นั้นที่ขจรไป จริงตามนั้นหรือไม่ ท่านพระโคดมพระองค์นั้น ทรงคุณเช่นนั้นจริงหรือไม่ เราทั้งหลายจะได้รู้จักท่านพระโคดมพระองค์นั้นไว้ โดยประการนั้น.

พ่อครูว่า... ให้ไปดูนะว่า พระสมณโคดมเป็นจริงตามตำราว่าไว้หรือไม่?

อัมพัฏฐมาณพถามว่า ท่าน ก็ไฉนเล่า ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่าเกียรติศัพท์ของท่านพระโคดมพระองค์นั้นที่ขจรไป จริงอย่างนั้นหรือไม่ ท่านพระโคดมพระองค์นั้นทรงคุณเช่นนั้นจริงหรือไม่?

พราหมณ์โปกขรสาติตอบว่า พ่ออัมพัฏฐะ มหาปุริสลักษณะ 32 ประการมาแล้วในมนต์ของเรา ซึ่งพระมหาบุรุษประกอบแล้วย่อมมีคติเป็นสองเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่น ถ้าครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร 4 เป็นขอบเขต ทรงชนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว เป็นที่ 7

พ่อครูว่า...จักกรแก้วคืออาวุธ ม้าแก้วคือพาหนะตัวเล็ก ช้างแก้วคือพาหนะตัวใหญ่ แก้วมณี คือมีสิ่งสำคัญในทรัพย์ศฤงคาร แก้วมณีต่างๆ มีนางแก้วมีผู้หญิงมีคู่ใจ คฤหบดีแก้ว มีบริวารฆราวาสมหาชน ประชากรของพระองค์ ปรินายกแก้วคือท่านเป็นปรินายกอย่างดีเลย

เลข 7 เป็นเลขที่ เป็นพลังรวมที่ยิ่งใหญ่ 8 พลังเต็มสุด 9 เป็นความสูงสุดซึ่งเป็นพุทธะวิสัย 8 ก็ยังเป็นวิสัยที่ทุกอย่างรวมลงตรงนี้สูงสุดได้ 7 นี้ก็เตรียมขึ้นไป อย่างอาตมา 7 เตรียมขึ้นไปหา 8

พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้พระองค์ทรงชำนะโดยธรรม มิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศาตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ถ้าเสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก

พ่อครูว่า...อาชญาเป็นลักษณะข่มบังคับ คอมมานต์ ไม่ได้เป็นอิสระ เรื่องไม่ใช้อำนาจข่ม ใช้ความสงบใช้คุณงามความดีเป็นอาวุธเป็นธรรมาวุธ ยิ่งใหญ่ที่อาตมาพูดแล้วอธิบายแล้วว่าพวกเราไปรบ ประหารรัฐบาล พวกเราออกรบนำทัพประชาชนไทย ประหารรัฐบาลไปตั้งไม่รู้กี่รัฐบาล ทักษิณ สมัคร สมชาย แม้แต่อภิสิทธิ์ แล้วก็ยิ่งลักษณ์ มีหลักฐานจริงๆไม่ใช่พูดลอยลมเอาดีเข้าตัว แต่เราได้ไปร่วมกับประชาชนคนไทยทำงานนี้ โดยเราตั้งใจไปเป็นตัวหลัก เอาครัวเอาครกเอาสากเอาหม้อข้าวหม้อแกงไปตั้งหลักอยู่ข้างถนน สร้างส้วมต่อท่อน้ำใช้กัน ปักหลักอยู่กันเป็นปีๆ รวมแล้ว 7-8 ปี ก็อาจมีวรรคเว้นนิดแล้วไปต่อ กว่าจะเสร็จทุกรัฐบาล

เขาไม่เข้าใจว่าประชาชนปฏิวัติรัฐประหารคืออย่างที่เราไปทำอย่างโลกุตระนี้ นักรัฐศาสตร์ยังฟังไม่ออกยังคิดไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร สักวันหนึ่งเขาจะเข้าใจ ว่าพวกเรานี้เป็นพวก Pioneer เป็นพวกหัวเจาะเป็นพวกที่นำก่อนเข้าไป มันจึงยากเป็นต้นแบบที่คนยังรู้ไม่ทัน ยังรู้ไม่ถึง อาตมาก็พูดเอาไว้แล้วคนจะเข้าใจในอนาคต อาจจะ 100 หรือ 200 ปีหรือหลายร้อยปี ไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาตรา

พ่ออัมพัฏฐะ เราเป็นผู้สอนมนต์ พ่อเป็นผู้เรียนมนต์.

อัมพัฏฐมาณพรับคำพราหมณ์โปกขรสาติแล้ว ลุกจากที่นั่ง ไหว้พราหมณ์โปกขรสาติ กระทำประทักษิณ แล้วขึ้นรถม้าพร้อมด้วยมาณพหลายคน ขับตรงไปยังราวป่าอิจฉานังคลวันตลอดภูมิประเทศเท่าที่รถจะไปได้ ลงจากรถเดินตรงไปยังพระอาราม.

 [144] สมัยนั้นแล ภิกษุหลายรูปกำลังจงกรมอยู่กลางแจ้ง.

ลำดับนั้น อัมพัฏฐมาณพเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นถึงที่จงกรม ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะภิกษุเหล่านั้นว่า ท่านผู้เจริญ เวลานี้ท่านพระโคดมพระองค์นั้นประทับอยู่ที่ไหน พวกข้าพเจ้าพากันเข้ามาที่นี่ เพื่อจะเฝ้าพระองค์ท่าน.

พ่อครูว่า...พราหมณ์เขาก็บอกว่า เดียรถีย์ คือพวกที่ไม่เหมือนเขา เขาก็เลยมองว่าภิกษุคือพวก เดียรถีย์

ครั้งนั้นแล ภิกษุเหล่านั้นคิดเห็นร่วมกันเช่นนี้ว่า อัมพัฏฐมาณพผู้นี้เป็นคนเกิดในสกุลที่มีชื่อเสียง ทั้งเป็นศิษย์ของพราหมณ์โปกขรสาติผู้มีชื่อเสียงอันการสนทนาปราศรัยกับพวกกุลบุตร เห็นปานนี้ ย่อมไม่เป็นการหนักพระทัยแก่พระผู้มีพระภาคเลย ดังนี้แล้วจึงตอบ อัมพัฏฐมาณพว่า อัมพัฏฐะ นั่นพระวิหารมีประตูปิดอยู่ ท่านจงสงบเสียงเข้าไปทางพระวิหารนั้นค่อยๆ เข้าไปที่เฉลียง กระแอมไอแล้ว เคาะบานประตูเถิด พระผู้มีพระภาคจักทรงเปิดประตูรับท่าน.

ลำดับนั้น อัมพัฏฐมาณพสงบเสียง เข้าไปทางพระวิหารซึ่งมีประตูปิดอยู่นั้น ค่อยๆเข้าไปยังเฉลียง กระแอมไอแล้ว เคาะบานประตู พระผู้มีพระภาคทรงเปิดประตู อัมพัฏฐมาณพเข้าไปแล้ว แม้พวกมาณพก็พากันเข้าไปปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

 [145] ฝ่ายอัมพัฏฐมาณพ เดินปราศรัยบ้าง ยืนปราศรัยบ้าง กับพระผู้มีพระภาคผู้ประทับนั่งอยู่ พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า อัมพัฏฐะ เธอเคยสนทนาปราศรัยกับพวกพราหมณ์ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์เหมือนดังเธอ เดินบ้างยืนบ้าง สนทนาปราศรัยกับเราผู้นั่งอยู่เช่นนี้หรือ?

อ. ข้อนี้หามิได้ พระโคดมผู้เจริญ เพราะว่าพราหมณ์ผู้เดินก็ควรเจรจากับพราหมณ์ผู้เดิน พราหมณ์ผู้ยืนก็ควรเจรจากับพราหมณ์ผู้ยืน พราหมณ์ผู้นั่งก็ควรเจรจากับพราหมณ์ผู้นั่งพราหมณ์ผู้นอนก็ควรเจรจากับพราหมณ์ผู้นอน.

 ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ แต่ผู้ใดเป็นสมณะโล้น เป็นคฤหบดีเชื้อสายกัณหโคตร เกิดจากพระบาทของท้าวมหาพรหม ข้าพเจ้าย่อมสนทนาปราศรัยกับผู้นั้น เหมือนกับที่สนทนาปราศรัยกับพระโคดมผู้เจริญนี้.

อัมพัฏฐะ ก็เธอมีธุระจึงได้มาที่นี้ ก็พวกเธอมาเพื่อประโยชน์อันใดแล พึงใส่ใจถึงประโยชน์นั้นแหละไว้ให้ดี ก็อัมพัฏฐมาณพ ยังไม่ได้รับการศึกษาเลย สำคัญตัวว่าได้รับการศึกษาดีแล้ว จะมีอะไรอีกเล่า นอกจากไม่ได้รับการศึกษา.

พ่อครูว่า... ฝนตกแรงไม่หยุดเป็นนิมิตอย่างหนึ่ง

สมณะฟ้าไท... สรุปจบ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

640804_พุทธศาสนาตามภูมิ - ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 5

รายการ พุทธศาสนาตามภูมิ - ธรรมบรรยาย อัมพัฏฐสูตร ตอน 5 วันพุธที่ 4 สิงหาคม  2564 ณ บวรราชธานีอโศก ชมวิดีโอได้ที่นี่ ฟังเทปบันทึกเสียงได้ที่น...